10 อันดับทำเลทอง 2568 ราคาพุ่ง เลือกลงทุนคุ้มค่า

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตัวแปรสำคัญที่จะชี้เป็นชี้ตายว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เรื่องของ 'ทำเล' คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่นักลงทุนอสังหาฯ ว่าในปี 2568 นี้ ที่ดินในกรุงเทพมหานครหลากหลายทำเลมีการปรับราคาที่สูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการเติบโตและความต้องการในการอยู่อาศัย สะท้อนให้เห็นโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ที่นักลงทุนอสังหาฯ ไม่ควรพลาด

มาเช็กกันว่า Top 10 ทำเลทองรอบกรุงเทพมหานครในปี 2568 ที่จัดอันดับโดย AREA (ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย) มีที่ไหนน่าสนใจเป็นพิเศษ แล้วในอนาคตอันใกล้ ทำเลเหล่านี้จะมีอะไรใหม่ ๆ มาช่วยขยายศักยภาพการลงทุนให้เติบโตแบบก้าวกระโดดบ้าง

1. ย่านสยาม ชิดลม เพลินจิต

ที่ดินทำเลทองที่ราคาแพงที่สุดในปี 2568 ได้แก่ ที่ดินในย่านสยาม ชิดลม และเพลินจิต ถือเป็นย่านที่รวมทั้งอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม และแหล่งไลฟ์สไตล์ไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ทั้งยังเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว โดยราคาปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้ว 2.7% ส่งผลให้ราคาที่ดินย่านนี้พุ่งสูงขึ้นไปถึงตารางวาละ 3.85 ล้านบาท

จากราคาที่ดินที่ทะยานขึ้นไปแบบไม่หยุดยั้ง สะท้อนถึงความต้องการที่ดินและมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแนวโน้มราคาขยับขึ้นต่อไปในอนาคต จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในโครงการ Mixed-Use ยักษ์ใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัลใจกลางสยามสแควร์ และความต้องการของกลุ่มผู้มีรายได้สูงที่มองหาทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าหากต้องการลงทุนระยะยาว

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อคอนโดเพื่ออยู่เองหรือเพื่อลงทุน Noble Development มีโครงการ The Embassy Wireless ที่ตอบรับความต้องการของไลฟ์สไตล์ระดับ Luxury ได้รอบด้าน ตั้งอยู่ตรงข้าม Central Embassy ห่างจาก BTS เพลินจิตเพียง 400 เมตร ผสมผสานการอยู่อาศัยในแบบตะวันออกและตะวันออกได้อย่างลงตัว อิสระแห่งการใช้ชีวิตในแบบคุณ พร้อมโอเอซิสส่วนตัวบนพื้นที่กว่า 2,900 ตารางเมตร

ย่านชิดลมและเพลินจิต ทำเลน่าลงทุนอสังหาฯ ในปี 2568

2. ถนนวิทยุ

ที่ดินที่ราคาแพงเป็นอันดับ 2 ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ถนนวิทยุ ซึ่งราคาทะลุถึง 3.07 ล้านบาทต่อตารางวา แพงกว่าเดิม 2.3% แถมยังเป็นพื้นที่ระดับ Prime ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นด้วยบรรยากาศเงียบสงบ หรูหรา รายล้อมด้วยสถานทูต โรงแรม 5 ดาว และโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Super Luxury ที่หาได้ยากในใจกลางเมือง

หนึ่งในแม่เหล็กสำคัญที่ช่วยผลักดันศักยภาพของถนนวิทยุให้สูงขึ้นไปอีกขั้น คือการพัฒนา โครงการ One Bangkok ที่ประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรด A, โรงแรมหรู, ที่พักอาศัย, พื้นที่ค้าปลีก รวมถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท ทำให้ที่ดินบนถนนวิทยุมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพสูงสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับบน

3. สุขุมวิท-ไทม์สแควร์

ทำเลทองลำดับถัดไป อยู่ในโซนสุขุมวิท-ไทม์สแควร์ หรือพื้นที่บริเวณสุขุมวิทซอย 10-14 ซึ่งปรับตัวขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.8% ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 2.93 ล้านบาทต่อตารางวา เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่รายล้อมด้วยสำนักงานต่างชาติ โรงแรมระดับ 5 ดาว และคอนโด Super Luxury เช่น อาคารไทม์สแควร์ โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit และโรงแรม The Westin Grande Sukhumvit ใกล้จุด Interchange รถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท เชื่อมต่อไปในหลายเส้นทางได้อย่างสะดวก

อีกทั้งย่านนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้ ชาวญี่ปุ่นและยุโรป จึงมีความต้องการเช่าสูงตลอดทั้งปี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนปล่อยเช่า รวมถึงเก็งกำไรจากการพัฒนาในอนาคต

4. สุขุมวิท-อโศก

ทำเลต่อมา ยังคงอยู่กันที่โซนสุขุมวิท แต่เป็นย่านสุขุมวิท-อโศก หรือช่วงซอยสุขุมวิท 23-33 ขยับขึ้นมาแตะ 2.8 ล้านบาทต่อตารางวา โดยในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ประมาณ 3.7% ถือเป็นหนึ่งในทำเล CBD ที่โดดเด่นที่สุดของกรุงเทพฯ ทั้งในแง่ของการทำงาน การอยู่อาศัย การศึกษา และการลงทุน ทั้งยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าชื่อดังอย่าง Terminal 21, อาคาร Interchange Tower, อาคาร Exchange Tower, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และโรงเรียนชั้นนำอีกหลายแห่ง

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ ส่งผลให้อโศกเป็นทำเลทองที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในเมือง และต้องการอยู่อาศัยใกล้แหล่งงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ส่งผลให้มีความต้องการเช่าและอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และหนึ่งในโครงการจาก Noble Development ในย่านนี้ ที่คุ้มค่าทั้งการซื้อเพื่ออยู่เองและลงทุน ต้องยกให้ Noble State Sukhumvit 39 คอนโดมิเนียมใจกลางย่านพร้อมพงษ์ที่หลอมรวมวัฒนธรรมไทยและต่างประเทศเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว เติมสีสันการใช้ชีวิตด้วยงานศิลปะอันโดดเด่น และสิ่งอำนวยความสะดวกที่คิดมาเพื่อชีวิตปัจจุบันและอนาคตโดยเฉพาะ

Noble State Sukhumvit ตัวเลือกสำหรับการลงทุนคอนโดให้เช่าย่านพร้อมพงษ์

5. สีลม

แม้จะมีการพัฒนาโซนใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่สีลมยังสามารถครองความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน และองค์กรระหว่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้สีลมยังคงเป็นหนึ่งในย่านธุรกิจที่มีมูลค่าสูงที่สุดของกรุงเทพฯ ด้วยราคาที่ดินล่าสุดอยู่ที่ 2.67 ล้านบาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นราว 2.7% จากปีก่อน

แต่นอกจากจะเป็นแหล่งรวมพื้นที่พาณิชย์อันเก่าแก่แล้ว ยังเป็นศูนย์รวมอาคารสำนักงานระดับ Flagship ทั้งไทยและต่างชาติอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Silom Edge, Park Silom หรืออาคารสำนักงานที่อยู่คู่สีลมมาอย่างยาวนานอย่าง Silom Complex หรือ ธนิยะพลาซา ซึ่งในอนาคต ยังมีแนวโน้มการพัฒนาโครงการ Mixed-Use ในโซนนี้อีกหลายแห่ง ทำให้สีลมเป็นทำเลที่น่าจับตามองสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มในระยะยาว และอยู่ในย่านที่ไม่มีวันหลุดจากแผนที่เศรษฐกิจไทยแน่นอน

6. สาทร

สาทรคือทำเลที่รวมศักยภาพด้านการลงทุนและการอยู่อาศัยในระดับพรีเมียมไว้ครบครัน โดยราคาที่ดินในปี 2568 อยู่ที่ 2.35 ล้านบาทต่อตารางวา สูงขึ้นกว่าปี 2567 ถึง 2.2% ย่านนี้โดดเด่นด้วยอาคารสำนักงานของบริษัทข้ามชาติ ธนาคาร และสถานทูตหลายประเทศ รวมถึงคอนโดมิเนียมหรูที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ

จุดแข็งของสาทรยังอยู่ที่การเชื่อมโยงเส้นทางการเดินทางที่แสนสะดวก เพราะมีทั้ง BTS สถานีช่องนนทรี และ MRT สถานีลุมพินี รวมถึงการเข้าถึงทางด่วนได้อย่างง่ายดาย ทำให้เหมาะทั้งการใช้ชีวิตและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า ที่สำคัญ ย่านนี้ยังมีแนวโน้มรีโนเวตอาคารเก่าเพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคต จึงเป็นทำเลที่มีโอกาสเติบโตต่อไปได้อีกมาก

ถนนสาทร หนึ่งในทำเลทองแห่งปี 2568 ของกรุงเทพมหานคร

7. สุขุมวิท-เอกมัย

ราคาที่ดินเฉลี่ยในย่านสุขุมวิท-เอกมัย ปี 2568 อยู่ที่ 1.96 ล้านบาทต่อตารางวา ปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม 3.2% จุดเด่นของทำเลนี้คือความเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลี อีกทั้งเอกมัยยังเป็นย่านไลฟ์สไตล์ครบครัน ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ โรงเรียนนานาชาติ และคอนโดมิเนียมหรู

แลนด์มาร์กสำคัญ ได้แก่ Gateway Ekamai, Major Cineplex Sukhumvit, โรงเรียนนานาชาติเอกมัย และอาคารสำนักงานอีกหลายแห่ง และด้วยความที่ใกล้กับ BTS เอกมัย รวมถึงมีถนนที่สามารถตัดผ่านไปในย่านทองหล่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ย่านนี้ยังคงเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568

8. เยาวราช

เยาวราชเป็นหนึ่งในย่านเก่าแก่ที่ราคาที่ดินมีมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ อย่างไม่เปลี่ยนแปลง โดยในปี 2568 ราคาขยับมาอยู่ที่ 1.93 ล้านบาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นประมาณ 4.3% ด้วยความที่เป็นย่านค้าขายขนาดใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทำให้เยาวราชยังคงเป็นทำเลทองของนักลงทุนด้านการค้าปลีกและธุรกิจบริการ โดยเฉพาะโรงแรมและร้านอาหาร

ไฮไลต์ของเยาวราชอยู่ที่การเป็นถนนสตรีทฟู้ดเส้นสำคัญของกรุงเทพฯ เดินทางไปเยือนได้สะดวกโดยสถานี MRT วัดมังกร ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางได้สะดวกทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลให้ราคาที่ดินในพื้นที่นี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามความต้องการด้านพาณิชยกรรม

9. พหลโยธินตอนต้น

ราคาที่ดินของทำเลพหลโยธินตอนต้นช่วงอารีย์-สะพานควาย เฉลี่ยอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา ในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5.6% ถือเป็นทำเลที่ผสมผสานระหว่างพื้นที่ราชการ ย่านธุรกิจ และแหล่งที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนพญาไท ถนนพระราม 6 หรือถนนวิภาวดีรังสิต และอยู่ในแนว BTS สายสีเขียว ทำให้เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก

ย่านนี้เป็นที่ตั้งของโครงการ Mixed-Use อาคารสำนักงาน และหน่วยงานราชการหลายแห่ง เช่น Pearl Bangkok, Ari Hills, The Rice, กรมประชาสัมพันธ์ และธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้พหลโยธินตอนต้นกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งงานสำคัญของกรุงเทพฯ ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่แห่งนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่

สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนในย่านอารีย์-สะพานควาย ขอแนะนำ Nue Evo Ari คอนโดห้องหน้ากว้างบนทำเลอารีย์ซอย 1 ใช้ชีวิตใกล้ชิดแหล่งไลฟ์สไตล์และความสะดวกสบาย ห่างจาก BTS อารีย์เพียง 300 เมตร พร้อมส่วนกลางสไตล์ Rooftop กว่า 6 Zone และ 18 Facilities

คอนโด Nue Evo Ari ตั้งอยู่บนทำเลทองที่เหมาะกับการลงทุนในปี 2568

10. พญาไท

ปิดท้ายลิสต์ทำเลทองที่เหมาะกับการลงทุนอสังหาในปี 2568 ด้วยพื้นที่เขตพญาไท ซึ่งราคาล่าสุดอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 5.6% โดยปัจจัยส่วนใหญ่มาจากการเติบโตตามการพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะ และแผนการลงทุนในพื้นที่รอบสถานีรถไฟพญาไทซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทาง 3 เส้นทางหลักเข้าด้วยกัน ได้แก่ รถไฟบนดิน รถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า Airport Rail Link

ด้วยโครงข่ายคมนาคมที่ครบวงจร ทำให้พญาไทได้รับความสนใจจากทั้งกลุ่มผู้พัฒนาและนักลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งยังรายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานและโครงการ Mixed-Use หลายแห่ง เช่น อาคารพญาไทพลาซ่า, อาคาร CP Tower 3 รวมถึงโครงการ Unicorn Phayathai นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวก ทำให้พญาไทเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งผู้เช่าและนักท่องเที่ยว ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลทองของกรุงเทพฯ

นอกเหนือจากจะเลือกลงทุนบนทำเลทองแห่งปี 2568 แล้ว การเลือกโครงการที่ถูกใจกลุ่มผู้เช่าและมีศักยภาพในการทำกำไรในอนาคต ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน วางแผนลงทุนคอนโดให้เช่าบนทำเลทองรอบกรุงเทพมหานคร เลือกโครงการคุณภาพจาก Noble Development ใกล้รถไฟฟ้า แหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์สำหรับคนเมืองยุคใหม่ มีให้เลือกหลากหลายทำเล คลิกเลือกอ่านรายละเอียดโครงการ นัดหมายเข้าชมห้องตัวอย่าง และลงทะเบียนรับข้อเสนอพิเศษได้ที่เว็บไซต์ของเรา

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. ราคาที่ดินปรับขึ้น 5% ส่อง 10 ทำเลแพงที่สุด ถูกที่สุด ในกรุงเทพ-ปริมณฑล ปี 2568. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 จาก https://www.matichon.co.th/economy/news_5083153
  2. 10 ที่ดินทำเลทอง ปี 2568 ราคาแพงสุดในกรุงเทพ ย่านสยามสูงสุดตารางวาละ 3.85 ล้านบาท. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 จาก https://www.thaihometown.com/news/10-ที่ดินทำเลทอง-2568-ราคาแพงสุดในกรุงเทพ

โครงการเเนะนำ

เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ
ดูทั้งหมด