ติดบูโรซื้อบ้านได้ไหม ? ตอบข้อสงสัยพร้อมแนวทางที่แก้ได้จริง

ติดบูโร ติดแบล็กลิสต์ อยากซื้อบ้าน ต้องทำอย่างไร ?

ติดแบล็กลิสต์ ติดบูโร อยากซื้อบ้าน ต้องทำอย่างไร

สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เมื่อลองเริ่มต้นค้นหาข้อมูลอาจพบคำว่า “ติดบูโร” หรือ “ติดแบล็กลิสต์” ที่ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคใหญ่ และทำให้กังวลใจ เพราะการติดเครดิตเหล่านี้อาจทำให้หลายคนเกิดความสงสัย และไม่แน่ใจว่าจะยังซื้อบ้านได้ไหม หรือควรเริ่มแก้ไขอย่างไรดี

บทความนี้จะช่วยคลายความกังวล ด้วยการพาทุกคนมารู้จักว่า การติดบูโรและการติดแบล็กลิสต์คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อการขอสินเชื่อบ้าน รวมถึงแนวทางที่คุณสามารถเตรียมตัวและจัดการกับสถานะเครดิต เพื่อให้คุณสามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายการมีบ้านได้อย่างมั่นคง

ติดบูโรคืออะไร ? และส่งผลอย่างไรกับการซื้อบ้าน

บูโรเครดิต คือ ฐานข้อมูลที่รวบรวมประวัติการชำระหนี้ของผู้บริโภค โดยสถาบันการเงินและบริษัทเครดิตจะส่งข้อมูลนี้ไปยังสำนักงานข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) หากมีประวัติชำระหนี้ล่าช้า หรือผิดนัดชำระหนี้ อาจทำให้สถานะเครดิตถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ติดบูโร” หรือ “ติดแบล็กลิสต์”

สถานะนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการพิจารณาสินเชื่อบ้าน เพราะสถาบันการเงินจะมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อการปล่อยสินเชื่อ ทำให้โอกาสผ่านการอนุมัติลดลง หรือได้รับข้อเสนอที่ไม่ดีเท่ากับผู้ที่มีเครดิตดี

ติดบูโรซื้อบ้านได้ไหม ? เงื่อนไขและข้อจำกัดที่ควรรู้

แม้จะติดบูโร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อบ้านไม่ได้เสมอไป เพราะสถาบันการเงินบางแห่งยังพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในกรณีที่ผู้กู้มีแผนการปรับปรุงเครดิต หรือสามารถแสดงหลักฐานการชำระหนี้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ แต่โดยทั่วไป ผู้ที่ติดบูโรมักต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการปรับปรุงสถานะเครดิตก่อนยื่นกู้ ซึ่งหลังจากชำระหนี้ครบแล้ว ประวัติการค้างชำระในเครดิตบูโรจะยังคงถูกจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลา 3 ปี (36 เดือน) นับจากวันที่สถาบันการเงินแจ้งข้อมูลปิดบัญชีมายังเครดิตบูโร โดยข้อมูลการค้างชำระจะทยอยหายไปตามอายุข้อมูล เมื่อครบกำหนด 3 ปี ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบออกจากระบบโดยอัตโนมัติตามที่กฎหมายกำหนด

ดังนั้น ทางที่ดีเราควรจัดการการเงินให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเครดิตจะดีที่สุด

การประเมินเครดิตจะพิจารณาจาก

ประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง
จำนวนหนี้คงค้าง
ระยะเวลาที่สถานะติดบูโรอยู่ในระบบ
รายได้และความสามารถในการชำระหนี้

ดังนั้น การวางแผนที่ดีก่อนยื่นกู้ จะช่วยเพิ่มโอกาสการอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น

ติดแบล็กลิสต์คืออะไร แตกต่างจากติดบูโรอย่างไร ?

เครดิตบูโร (Credit Bureau)

บูโร (Bureau) เป็นหน่วยงานหรือระบบที่เก็บรวบรวมข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งข้อมูลการชำระเงินที่ดีและไม่ดี
รายงานเครดิตบูโรใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นผู้ตัดสินใจ
มีการบันทึกสถานะการชำระหนี้ ทั้งการชำระตรงตามเวลาปกติ และ การค้างชำระ เช่น ค้างเกิน 90 วั
ข้อมูลในเครดิตบูโรจะถูกเก็บไว้ประมาณ 3 ปีหลังจากปิดบัญชีที่มีหนี้ค้างชำระ
การติดเครดิตบูโร หมายถึงมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าถูกขึ้นบัญชีดำหรือถูกแบนจากการขอสินเชื่อเสมอไป

แบล็กลิสต์ (Blacklist)

การติดแบล็กลิสต์ เป็นคำที่ใช้ในวงกว้างเพื่อเรียกกลุ่มลูกหนี้ที่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้อย่างรุนแรง หรือหนี้เสีย (NPL - Non-Performing Loan)
แบล็กลิสต์ไม่ได้เป็นฐานข้อมูลหรือระบบกลางเหมือนเครดิตบูโร แต่เป็นการพิจารณาของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
เมื่อติดแบล็กลิสต์ จะถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูง ทำให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นไปได้ยากมาก หรือถูกปฏิเสธสินเชื่อโดยตรง
ไม่มีระบบล้างข้อมูลแบล็กลิสต์โดยอัตโนมัติ เพราะเป็นการตัดสินใจของแต่ละสถาบันการเงิ
สามารถแก้ไขสถานะได้ด้วยการชำระหนี้และปรับปรุงเครดิตอย่างจริงจัง

คนที่ติดแบล็กลิสต์อยากซื้อบ้าน กำลังวางแผนชำระหนี้

ติดแบล็กลิสต์อยากซื้อบ้านควรทำอย่างไร ? แนะนำวิธีแก้ไขปัญหาติดแบล็กลิสต์ เพื่อเปิดโอกาสซื้อบ้าน

หากใครที่อยากรู้ว่าการติดแบล็กลิสต์ต้องแก้อย่างไร ขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อปรับปรุงสถานะเครดิต และเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสำหรับการขอสินเชื่อบ้านในอนาคต

ตรวจสอบรายงานเครดิตอย่างละเอียด

เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบข้อมูลเครดิตของคุณจากสำนักงานข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ผ่านทางเว็บไซต์ : NCB เพื่อดูว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ เช่น บันทึกหนี้ที่ยังไม่ได้ชำระ หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาด คุณสามารถขอให้แก้ไขได้ ซึ่งจะช่วยให้สถานะเครดิตของคุณดีขึ้นทันที

เจรจาชำระหนี้กับเจ้าหนี้เพื่อปิดบัญชี

เมื่อคุณทราบสถานะหนี้ของตัวเองแล้ว ควรติดต่อเจ้าหนี้เพื่อเจรจาชำระหนี้ หรือทำการตกลงในแผนการชำระหนี้ ซึ่งอาจช่วยให้สามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น

ชำระหนี้ให้ครบถ้วนและรวดเร็ว

หลังจากที่ตรวจสอบสถานะหนี้ และทำการปรึกษากับเจ้าหนี้แล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการวางแผนชำระหนี้ทุกก้อนที่มีให้ได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็วที่สุด ยิ่งปิดหนี้ได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่จะขอสินเชื่อบ้านผ่าน ก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน

หากไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นอย่างไร การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการปรับปรุงสถานะเครดิตของคุณ

หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ใหม่ในช่วงปรับปรุงเครดิต

ในระหว่างที่คุณกำลังปรับปรุงเครดิตอยู่นั้น ควรหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม เช่น การใช้บัตรเครดิตหรือการกู้เงิน เพราะจะทำให้เครดิตของคุณยังไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่ ทำให้การขอสินเชื่อบ้านเป็นไปได้ยากมากขึ้น

แม้ว่าการติดบูโรหรือติดแบล็กลิสต์ จะเป็นอุปสรรคหนึ่งในการขอสินเชื่อบ้าน แต่ด้วยการทำความเข้าใจที่ถูกต้อง และการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมทั้งการปรับปรุงเครดิตอย่างจริงจัง โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของบ้านในฝัน ก็ยังเปิดกว้างอยู่เสมอ

จากสาระความรู้เกี่ยวกับการซื้อบ้านที่เรานำมาฝากกัน หากใครที่กำลังมองหาบ้านหรือคอนโดในฝัน บนทำเลศักยภาพ มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถเลือกซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ จาก Noble Development ได้เลย

ข้อมูลอ้างอิง: